ก้าวสู่ปีที่ 45 ยูนิแอร์ ขยายฐานสู่ตลาด AEC
Mar 8,2017เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา ดร.ณรัณ ศิริสันธนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ “ยูนิแอร์” (UNI-Aire) ได้จัดงานแถลงข่าว “ก้าวสู่ปีที่ 45 ยูนิแอร์ ผู้ชำนาญเรื่องเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Experts)” ณ โรงแรม S 31 ถนนสุขุมวิท
ดร.ณรัณ ศิริสันธนะ กรรมการผู้จัดการ ได้เปิดเผยถึงการดำเนินกิจการที่ผ่านมาว่า แบรนด์ “ยูนิแอร์” มุ่งเน้นการผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ สำหรับกิจการเชิงพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งสืบเนื่องมาจากผู้ก่อตั้งกิจการของ “ยูนิแอร์” เป็นกลุ่มวิศวกรไทยที่ร่วมกันบุกเบิก จึงให้ความสำคัญกับงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีเป็นหลัก
โดยระยะแรกของการก่อตั้งกิจการ บริษัทฯ เน้นการผลิตชิ้นส่วนเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศสำหรับเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ต่อมาด้วยประสบการณ์และความชำนาญที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้ขยายกิจการมาสู่การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “ยูนิแอร์” ให้บริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบและพัฒนาสินค้าตามความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละประเภท เช่นโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์ของ “ยูนิแอร์”ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็น “แอร์พันธุ์อึด”เพราะผลิตจากวัสดุที่ทนทาน มีเทคโนโลยีทันสมัย ประหยัดพลังงาน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ จึงสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็มีการผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก สำหรับที่พักอาศัยด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วไป
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีลูกค้าทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ มีผลประกอบการในปี 2559 ประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น ตลาดในประเทศ 75% และตลาดต่างประเทศอีก 25 % และตั้งเป้าการเติบโตสำหรับปี 2560 ไว้เพิ่มขึ้น 15% ของรายได้ที่ผ่านมา โดยการรักษาฐานตลาดเดิม และขยายตลาดไปยัง กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ในกลุ่มเออีซี
สำหรับทิศทางในการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไปนั้น บริษัทฯ ยังคงเน้นความเป็นผู้ชำนาญการเรื่องเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Experts)และมุ่งทำตลาดเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ สำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เช่น พัฒนาระบบ Internet of Things ซึ่งเป็นการควบคุมเครื่องปรับอากาศผ่านระบบ Cloud Network, การนำเทคโนโลยี Invertor ช่วยประหยัดพลังงานซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมต้องการ นอกจากนี้ยังใช้สารทำความเย็น R 32 หรือที่เรียกว่า น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ที่รักษ์สิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนสำหรับเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์เป็นรายแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับรางวัลด้านมาตรฐานสินค้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะ รางวัลล่าสุด Thailand Energy Award 2015 จากกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นรางวัลทางด้านผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน
ส่วนตลาดต่างประเทศซึ่งมีอยู่กว่า 70 ประเทศทั่วโลก เป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์ทั้งภายใต้แบรนด์ “ยูนิแอร์” และในรูปแบบอุปกรณ์ OEM โดยมีฐานลูกค้าหลักอาทิได้แก่ กลุ่มเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกากลุ่มตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน และกลุ่มประเทศในอเมริกากลาง
ในปีนี้บริษัทฯ ยังเตรียมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มเออีซีเพิ่ม ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยนำผลิตภัณฑ์ไปออกบูธแสดงสินค้าและร่วมมือกับพันธมิตรในแต่ละประเทศ เช่น กัมพูชา,เมียนมาร์ ,ลาว และเวียดนาม ฯลฯ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีความต้องการสินค้าและมีกำลังซื้อสูง ชื่นชอบสินค้าไทย
ดร.ณรัณ ยังกล่าวถึงแนวโน้มพฤติกรรมการใช้เครื่องปรับอากาศในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคว่า มีแนวโน้มใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน โดยปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้ามาจากตัวเลือกต่างๆ เช่น ราคา ความเย็น ความเงียบ เน้นประหยัดพลังงาน รักษาสุขภาพและความบริสุทธิ์ของอากาศบริเวณที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งบริษัทฯ เองได้พยายามนำเสนอนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ได้อย่างครบถ้วน ในราคาที่สมเหตุสมผล
บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดมา ด้วยการจัดโครงการต่างๆ เช่น กิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกับชุมชน ,สนับสนุนระบบการศึกษาโดยร่วมเป็นทวิภาคีให้การอบรมประสบการณ์วิชาชีพแก่นักเรียนนักศึกษาระดับอาชีวศึกษาจากสถาบันต่างๆ ระยะเวลา 6-10 เดือน เพื่อผลิตบุคลากรรุ่นใหม่ให้มีฝีมือในการออกไปประกอบอาชีพ อันเป็นกำลังสำคัญให้วงการอุตสาหกรรมไทยต่อไป และเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ได้เตรียมจัดกิจกรรม “ปันประสบการณ์ งานเครื่องปรับอากาศ” ให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยี การตลาดและการเป็น มืออาชีพเรื่องเครื่องปรับอากาศ แก่นักเรียนใน 10 สถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ โดยจะเริ่มโครงการในเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป